Social Enterprise Thailand
ถ้ามาเล่าว่าที่จริงแล้ว Singha Park สิงห์ปาร์ค เป็น Social Enterprise Thailand หลายคนคงจะงง ๆ ทั้งที่ในประเทศไทยก็ทำกันมานานแล้ว ในชื่อของกิจการเพื่อสังคม
ของต่างประเทศก็ทำกันมานานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นในบ้านเราก็ยังฟังไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่นักค่ะ
แต่ถ้าเล่าว่าคนที่ริเริ่มกิจการเพื่อสังคมในบ้านเราก็คือ สมเด็จย่า และ ในหลวงกับราชินี อย่าง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง โครงการห้วยองคต กาญจนบุรี โครงการชั่งหัวมัน ประจวบศีรีขันธ์ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง บารอตันบาตู นราธิวาส ศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมอาชีพ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ศิลปาชีพที่มีอยู่ทั่วประเทศ เช่น ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ทีนี้คงร้อง อ๋อ เพราะต้นแบบที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดโครงการเพื่อสังคมใหม่ ๆ มากมาย เพื่อทำหน้าที่แก้ไขปัญหาในสังคม โดยเฉพาะการให้ความรู้และการส่งเสริมอาชีพ และทำอย่างเป็นระบบครบวงจร เลี้ยงตัวเองได้

Singha Park as a social enterprise Thailand is a shining example that good business sense and social responsibility can go hand in hand.
ในภาคเอกชนเองก็มีหลายที่น้อมนำเอาแนวทางตามโครงการพระราชดำริต่าง ๆ มาปฏิบัติต่อ รวมถึง Singha Park ซึ่งทำโครงการทดลองปลูกพืชผักผลไม้มากมายนานาชนิด แล้วเอาผลที่ได้มาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร ได้มีความรู้ รวมทั้งค้นคว้าคัดพันธ์พืชที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับการปลูกในพื้นที่ เป็นโครงการดีดีที่ทำแบบปิดทองหลังพระมาตลอด ขนาดเราก็เพิ่งรู้ว่าที่สิงห์ปาร์ค มีโครงการที่สร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนเชียงรายในพื้นที่ และเป็นโครงการที่บริหารอย่างครบวงจรตั้งแต่ผลิต สร้างผลิตผลทางการเกษตร ไปจนถึงให้ความรู้ ส่งเสริมการเกษตร รับซื้อ และบริหารวัตถุดิบในการจัดจำหน่าย
ที่สำคัญคือ รอยยิ้มของความสุขของชาวเชียงรายในพื้นที่ที่ได้รับโอกาส จากโครงการ Singha Social Enterprise
ในความคิดของเรา เกี่ยวกับคำว่า กิจการเพื่อสังคม ฟังดูยากที่จะเข้าใจพอสมควร แต่เรื่องที่เข้าใจได้ง่าย คือผลลัพธ์ ถ้าผลลัพธ์ดี คนในโครงการมีความสุข ก็ต้องเป็นเรื่องดี
สิ่งที่อยู่ในโครงการ Singha Social Enterprise จะดูว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็คือ การดูว่าคนที่อยู่ในโครงการ มีความสุขดีไหม เพราะฉะนั้น พอได้ไปเที่ยวที่ Singha Park เชียงราย นอกจากการไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวแล้ว มีโอกาสเราก็เลยไปพูดคุยซักถามคนที่อยู่ในโครงการ Social Enterprise ของสิงห์ปาร์ค กันด้วยค่ะ

Social Enterprises use a business model to address community needs that are not being met by government or the private sector. The Centre for Community Enterprise
- ทาง Singha park อนุญาตให้ปลูกผักสำหรับทานเองได้ในพื้นที่ว่าง ๆ ภายในโครงการ
- ทาง Singha park อนุญาตให้ปลูกผักสำหรับทานเองได้ในพื้นที่ว่าง ๆ ภายในโครงการ เมื่อผักเติบโตพร้อมเก็บทาน ก็จะแบ่งๆกันไป ทานที่บ้าน
- แปลงทดลองไร่หม่อน
- แปลงทดลองไร่ราสเบอร์รี่
- เมื่อผักเติบโต พร้อมเก็บทาน ก็จะแบ่ง ๆ กันไป ทานที่บ้าน
- เก็บราสเบอร์รี่ไปทดลองจัดจำหน่ายให้ครบวงจร
- ในแปลงทดลองไร่ราสเบอร์รี่จะมีคนดูแลประจำอยู่เวรละ 2 คน เพื่อคอยดูแลไร่ตามเงื่อนไขที่กำหนด
สิ่งที่เราที่เป็นคุณแม่ลูกสาม ชอบ คือ เรื่องราวของของความรู้จักพอในการเงิน และมีความสุขในการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า และเป็นเรื่องที่ชอบเอามาสอนลูกชายตลอด ตอนที่เราได้ไปดูการทำงานของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ Singha Social Enterprise จะสังเกตเห็นว่าเกษตรกรจะมีผักที่วางไว้ในตะกร้ารถทำให้เกิดความสงสัย และก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยสัมภาษณ์ก็เลยทราบว่าผักนี้ได้มาจากการปลูกในเวลาว่างจากการทำงาน โดยทาง Singha park อนุญาตให้ปลูกได้ในพื้นที่ว่างๆ ในโครงการ เมื่อผักเติบโตพร้อมเก็บทาน ทุกคนก็จะเก็บมาทาน ถ้าเหลือเกินทานได้ก็เอามาแบ่งๆกันไป เอาไปทานที่บ้าน
พี่เขายังเล่าอีกว่าเกษตรกรโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในพื้นที่คนเชียงราย เวลาเริ่ม ทำงานของที่นี่ ตอนเช้าก็ 8 โมง ใช้วิธีเข้างานแบบทันสมัยมากคือ Fae scan แสกนหน้าเข้างานพอถึง 5 โมงเย็นทุกคนก่อนกลับบ้านกันอีกรอบ โดยจะมีรถของโครงการวิ่งวนไปรับทุกคนจากพื้นที่ที่ตัวเองดูแล ระหว่างนั้นก็จะเห็นพี่ ๆ เค้าทยอยกลับบ้านไม่ขาดสาย บ้างก็ขับมอเตอร์ไซค์ บางก็ขึ้นรถกะบะ ในมือมีพีชผักตามธรรมชาติ น่าทาน ถือติดมืออย่างมีความสุขกลับบ้าน
พี่เขาเล่าถึงการทำงานว่าทำมาแล้ว 2 ปีทำในส่วนของดอกไม้ ตอนนี้มีลูก 2 คน มีความสุขดีที่ได้ทำงานที่นี่ และก็คงทำต่อไปอีกนาน
รอยยิ้มในความพึงพอใจในการใช้ชีวิต ใน Singha Park A Social Enterprise ที่เป็นกิจการเพื่อสังคม สะท้อนถึงความสำเร็จของโครงการได้อย่างไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เราเชื่อว่าตราบใดที่คนล่างสุดยังทำงานอย่างมีความสุข แปลว่าระบบการจัดการของกิจการต้องดี มีธรรมาภิบาล และใส่ใจ ถึงจะสะท้อนออกมาเห็นความสุขของคนที่ทำงานอยู่ตรงนั้นค่ะ
เราคิดว่า สิงห์ปาร์ค และไร่บุญรอดฟาร์ม เป็น Social Enterprise Thailand ที่ดีที่สุดที่นึงที่เราเคยรู้จักมาเลยค่ะ สภาพแวดล้อมในการทำงานดี มีความสุข ระบบงานดี และใจกว้าง ต้องการให้มีงานมีอาชีพอย่างยั่งยืนจริง ๆ ในส่วนของเราก็จะสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมแบบนี้ด้วยการมาท่องเที่ยว และอุดหนุนสินค้า ให้เกิดรายได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับดันโครงการดีดีแบบนี้ได้อยู่คู่สังคมไทยไปอีกนานๆ เลยค่ะ